สำหรับเบเกิลหลายคนน่าจะคงเคยได้ยินชื่อกันมาบ้างหรือหากไม่เคยได้ยินชื่อแต่ถ้าหากได้เคยเห็นลักษณะของเจ้าขนมชนิดนี้ก็น่าจะพอทำให้นึกออกกันขึ้นมาบ้าง เบเกิลคือขนมปังก้อนที่มีลักษณะเป็นรูกลมตรงกลางที่แม้ว่าจะคล้ายกัโดนัทแต่ขนาดรูไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นที่สำคัญรสชาติของโดนัทกับเบเกิลนั้นคนละอารมณ์กันเลย เนื่องจากว่าเบเกิลที่ดีต้องมีเปลือกเหนียวหรือหากออกจากเตาใหม่ๆ ต้องกรอบ ส่วนเนื้อด้านในของขนมจะนุ่มอร่อยมาก สำหรับการทานเบเกิลสามารถเลือกทานได้หลายแบบบางคนก็ทานเปล่าๆ ทานกับเนย ทานกับแยม หรือใส่ไส้ให้เหมือนแซนด์วิชก็ได้เช่นเดียวกัน
ส่วนผสมในการทำเบเกิล
- แป้งขนมปัง 650 กรัม
- ยีส 8 กรัม
- น้ำเปล่าประมาณ 400 กรัม
- เกลือ 12 กรัม
- น้ำตาลทรายแดง 6 กรัม
วิธีทำเบเกิล
- นำแป้งขนมปังประมาณ 300 กรัม ยีสต์ 8 กรัม และน้ำเปล่า ใส่ลงไปในชามเมื่อคนให้เข้ากันแล้วลักษณะที่ออกมาจะคล้ายกับแป้งแพนเค้ก ต้องไม่เหลวเกินไปไม่ข้นเกินไป ผสมตีให้เข้ากันจนไม่มีเม็ดแป้งติดอยู่
- พักแป้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง ที่ถูกปิดจนไม่ให้อากาศเข้าได้ พักจนมีฟองอากาศขึ้นมาจนเมื่อแป้งเริ่มขยายออกตามเวลาที่กำหนดก็ให้ใส่ส่วนผสมต่างๆ ลงไปแล้วตีให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
- นวดไปเรื่อยๆ จนเข้ากันดี สังเกตว่าเนื้อแป้งนั้นจะเหนียวแน่นกว่าแป้งขนมปังทั่วไป แต่ถ้าหากนวดแล้วแป้งเริ่มเหลวแสดงว่าอุณหภูมิรอบนอกสูงขึ้นให้หยุดการนวดเอาไว้ก่อนแล้วใส่อ่างฝาเข้าตู้เย็น ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยนำมานวดต่อ
- เมื่อได้ที่ให้แบ่งแป้งออกเป็นก้อนกลมก้อนละประมาณ 120 กรัม แล้วพักให้แป้งคลายตัวประมาณ 10 นาที คลึงให้เป็นก้อนกลม ใช้นิ้วเจาะรูตรงกลางให้ทะลุ ใช้นิ้วหัวแม่มือสองข้างสอดเข้าไปในรู ขยับนิ้วให้ห่างกันเพื่อให้รูใหญ่ขึ้น
- ทาน้ำมันพืชบนถาดอบบางๆ แล้วนำแป้งโดที่ทำเอาไว้วางโดยถึงแม้ว่าจะใช้แผ่นรองอบหรือกระดาษไขก็ยังคงต้องทาน้ำมันอยู่ดีเพื่อให้ไม่ติดถาด จากนั้นเอาพลาสติกคลุม เอาถาดเข้าตู้เย็นทิ้งไว้ 1 คืน
- เช้าเอาถาดออกแต่ยังไม่ต้องเปิดพลาสติก ตั้งเตาอบที่อุณหภูมิ 230 องศาเซลเซียส แล้วเอาหม้อใบใหญ่ใส่น้ำตั้งจนเดือด ระหว่างนั้นเอาพลาสติกออก พอน้ำเดือดเติมน้ำตาลทรายแดง เบคกิ้งโซดาเล็กน้อย
- หยิบโดหย่อนในน้ำเดือดลวกด้านละ 40 วินาที แล้วนำไปอบ 10 นาที เปิดเตากลับถาดตั้งไฟ 180 องศาเซลเซียส อบต่ออีก 10 นาที ก็จะได้เบเกิลที่สีสันสวยงามน่าทานแล้ว